อำพล จงสิทธิผล - เทียบเคียงคำ

ฟอกจิต
จะต้องทำกระบวนการ ให้จิตบริสุทธิ์ ก่อน ด้วยการทำ ฌาน 4 จึงจะสามารถเข้าถึงความหมายต่างๆ ได้ เมื่อจิตกระจ่างแจ่มชัดแล้ว ความหมายต่างๆ ในสมองหรือสัญญาที่บันทึกต่างๆนานาเพื่อการนี้ พึงกระทำการดับ
นิโรธะ คามินี ปฏิปทา
การประพฤติ นิโรธ เป็นธรรมชาตินิสัยปกติ บนพื้นฐานมรรค 8 หรือ มีมรรค 8 เป็นปัจจัยประกอบ
ฉันทะ วิริยะ จิตต วิมังสา
เป้าหมาย วางจิค และ สติ ในสภาพ อุเบกขา โดยใช้อิทธิบาท 4 ผลักดัน พรหมวิหาร 4 หรือ โพชฌง 7 อัดสู่จิต กล่าวคือ ฉันทะกับอุเบกขา วิริยะเพียรกระทำเพื่ออยู่ในอุเบกขา จิตตตั้งมั่นหรือทรงอุเบกขา วิมังสาโดยการทบทวนว่าความเป็นอุเบกขานั้นเต็มเปี่ยมเพียงใด
พรหม หรือ ฌาน
ความหมายเดียวกัน เป็นการจัด หมวด หรือ แยกแยะ พฤติกรรม ของจิต ออกเป็น 31 สภาวะ
สมาธิ
สภาพการทำให้หยุดนิ่ง หรือ จำศึล เพื่อการหยุดขบวนการสันดาปเผาผลาญพลังงาน หรือ เมตาบอริซึม ทั่งหมดชัวคราว อาศัย ลมหายใจที่เบาสบายบริสุทธิ์ จะว่าไป สมาธิ คือ ศาสตร์แห่งลมหายใจ ก็มีส่วนอยู่บ้าง
การดับสัญญา (สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ)
ขั้นตอน การทำให้ เวทนาของความทรงจำเก่าๆ สิ้นฤทธิ์ หรือ สิ้นพิษ มีวิบากเป็นกลาง เหมือนเศษผงไร้พิษภัย พิจารณาว่าเราได้เรียนรู้หรือถูกสั่งสอน (ดัดนิสัย) อะไรจากตรงนั้นบ้าง เมื่อรู้แจ้งแล้ว จึงสละความทรงจำนั้นทิ้งเสีย แต่ถ้าหากยังคงอยู่ ก็ไม่มีพิษภียอะไรอีกต่อไป
ความสุข จากกิเลส
ทุกข์ สุข คือ ลมหายใจ
ถ้าเรามีทุกข์ ลมหายใจนั้น จะรู้สึกติดขัด หายใจไม่สะดวก
ถ้าเรามีสุข ลมหายใจนั้น จะ ปลอดโปร่ง
ถ้าเราสงบ ลมหายใจนั้น จะ ปลอดโปร่ง เช่นเดียวกัน สุข จนแยกไม่ออกว่า กำลังสุข หรือ สงบ
จริงๆ แล้ว มันคือลมหายใจของความสงบ ทั้งคู่
พระเยซู สอนให้ รัก
ความรัก = ให้ความปราถนาดี ซึ่งกันและกัน บน พื้นฐาน พรหมวิหาร 4 นั่นเอง มิใช่รักใคร่ผูกพัน
พรหมวิหาร 4 = ความรัก นี่เอง
ธาตุ = Something, สรรพสิ่ง
คำสอนของพระเยซู
- ชีวิตนิรันดร์: การนิพพาน
- ความรัก: ปราถนาดี ต่อเพื่อมนุษย์
- ศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าโดยมิต้องสงสัย:สร้างกำลัง ศรัทธา
พลังงาน-ชีวิต = ฐานจิต หรือ บางทีย่อว่าจิต หรือ บางที น่าจะแทนไปด้วย ใจ อาจจะดีกว่า
เห็น = ประสบ
รู้ทันจิต = เห็นจิต เกิดดับ เกิดดับ เผลอๆ เห็น การเกิดพร้อมการดับ
อินทรีย์ 5 (เกิดที่กาย) และ พละ 5 (เกิดที่จิต)
- ศรัทธา
  ความเชื่อมั่น
- วิริยะ
  ความหมั่นเพียร
- สติ
  ฝึกฝน อยู่กับปัจจุบัน
- สมาธิ
- ปัญญา
สติ คิอ การรู้ตัว ใช่หรือไม่?
สำนึก คือ การระลึกได้ ว่า อะไรกำลังดำเนินอยู่ ใช่หรือไม่ แล้ว สติ กับ สำนึก ต่างกัน อย่างไร ?~
ก่อให้เกิด = กระตุ้นให้เกิด
จิตดิ่ง = อารมภ์ดำดิ่ง หรือ จมไปในตันเถียน ด้วยความลึกแห่งความสงบ หรือ รู้ลมหายใจที่น้อยนิด หรือ เสมือนที่เสียงที่มาจากที่ไกลๆ ซี้งจะค่อยๆ แผ่วเบาลงเรื่อยๆจนดับไป
become one with = รวมกันกับ, จับคู่กับ, ผสมเข้ากับ
อโลโก = แจ่ม บรรเจิด เปิดทะลวงม่านฟ้า แห่งจิต
ธาตุ = สภาวะ ... บางครั้งแสดงตัว แบบจับต้องได้ .... บางครั้งแสดงตัว แบบจับต้องไม่ได้
ขันธ์ = องค์ประกอบ ... เช่น ขันธ์5 ขันธ์3(ศีล สมาธิ ปัญญา)
วิมุตติ = จบกระบวนการ จางคลาย หรือ สลัดคืน , อยู่ในสภาวะ การจางคลาย หรือสลัดคืน สิ้นสุดแล้ว ... โดยมี วิสุทธิ คือความบริสุทธิ์ เป็นผล
วิเวก = ปราศจาก สิ่งรบกวน ทั้งภายนอก และภายใน
สฬายตนะ = คือ เกิดการ กระทบ กระแทก อัดแน่นกดดัน ผ่อนคลาย ที่หัวใจ ทำให้มีการส่งผลต่อระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ อวัยวะ เส้นเอ็น ในทันที