ฌาน นำทางให้เห็น จิต
เมื่อเห็น จิต ดวงตาธรรม จึงเพียงเริ่มเปิด
เมื่อจิต และ กาย แยกจากกัน จึงเพียงเริ่มต้น แห่งสัจจธรรม
บริสุทธิ์    อิสระ    หนัก-แฝงกับผัสสะ    แทงตลอด    ทิ้ง-สิ่งยึดติด อย่างวางใจ    สติ-แห่งจิต
เมื่อจิตพลิกแล้ว จะเห็น สิ่งต่างๆเป็นแสนเป็นล้าน เป็นสมมติ พร้อมกันเพียงเสี้ยววินาที
การชำระล้างจิต และ การพลิกจิตสู่จิตระดับสูง

จากบทก่อนๆ ที่ทุกคนได้ศึกษามา ตอนนี้คุณมี ♥ มีกำลังของสมาธิ มีปัญญาจากวิปัสสนาญาณ มีบารมีของ พระพุทธเจ้าคอยคุ้มครองจากการอาราธนาจับภาพพระเป็น พุทธานุสติ ♥ คุณรู้จักการ จับลมหายใจ รู้จักการใช้พลังจิต ดึงปราณ และธาตุทิพย์จากพระนิพพาน ♥ รู้จักการอธิฐานกำกับ การอธิฐานขอบารมี รู้จัก วสี ความชำนาญ ในการเข้า ออกฌาน กันแล้ว นับว่ามีพื้นฐาน ในการทรงฌาน และ วิปัสณาญาณ ดีพอขั้นตอนต่อไปจะเป็น

การชำระล้างจิตให้บริสุทธิ์ขึ้น โดยการลด สลาย บรรเทากรรม ด้านอกุศล ให้ลดลง ด้วย กำลังของสมาธิ และ การอธิฐาน จากนั้นจะ เทคนิค ♥ การอธิฐานมหาโมทนา เพื่อ เป็น การรวมบุญใหญ่เข้าสู่จิตของเราต่อไปเป็น ♥ การอธิฐาน เบิกบุญ เรียกบารมีเก่าให้มารวมตัว ต่อด้วยฝึก ♥ วิชชาเมตตาอัปปมาณฌาณ ซึ่งคุณจะเข้าใจถึงการแผ่เมตตาอย่างแท้จริง

ส่วนท่านที่ ปรารถนาพุทธภูมิ จะ เพิ่มเติมการอธิฐานสัมมาทิฐิ เพื่อการ พลิกจิตเข้าสู่ความเป็น พระโพธิสัตว์ ครับ

--------------------------------------------------------

เมื่อทบทวน และ อธิบายเนื้อหา ไปแล้วก็จะ เริ่มฝึกแล้วนะครับ

1. ขอขมากรรม--------- ขอให้ทุกคน จับลมสบาย จับภาพพระให้ใสเป็นเพชร แล้ว ตั้งจิตระลึกถึงศีล ว่าขณะที่ฝึกนี้ ศีล ของเราบริสุทธิ์ จากนั้นคิดว่า มีตัวเราอีกคนกำลังกราบที่ตักของพระพุทธรูป แล้ว อธิฐานขอ ให้พระบารมีของพระพุทธองค์ท่านมาสถิตเป็นหนึ่งเดียว กับ พระพุทธรูปในจิตของเรา ด้วย ความศรัทธามั่นคงไม่ลังเล จากนั้น ขอขมาพระรัตนไตยว่า '' กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงละเมิด ต่อพระรัตนไตย และ สิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ จะเจตนา และไม่เจตนา จะระลึกได้ หรือ ระลึกไม่ได้ ก็ดี ได้ทำในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี ข้าพเจ้าขอให้พระรัตนไตย ได้โปรดงดโทษที่จะพึงเกิดแก่ ข้าพเจ้า ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ "

จากนั้นให้กายในจิตกราบพระพุทธเจ้าท่าน สำหรับท่านที่ได้มโนฯให้ใช้กำลังใจ แยกอาทิสมานกายตามกำลังสูงสุด คือ ♥ พระวิสุทธิเทพ ขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้า และ พระอริยสงฆ์ บนพระนิพพานแล้ว อธิฐานขอขมาได้เลยครับ ให้ทุกท่านอธิฐานต่อไปว่าขอให้พระพุทธเจ้า ท่านเมตตาเป็นประธาน และ พยานให้แก่ข้าพเจ้าในการอธิฐานดังต่อไปนี้

------------------------------------------------------------------------------------------------

" ข้าพเจ้าขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวร และ บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกิน ละเมิด ต่อท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ทางใจ ก็ดี ในอดีตก็ดี ในปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี และมีเจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดี ขอให้ท่านเจ้ากรรม นายเวร และ สรรพสัตว์ ทั้งหลาย ได้โปรดอโหสิกรรมงดโทษ ที่พึงเกิดแก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

-------

บุญกุศล ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมานับแต่ อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และ ที่จะบำเพ็ญต่อไป ในอนาคต ข้าพเจ้าขออุทิศให้ท่านทั้งหลายได้โมทนา และ มีส่วนร่วมในบุญกุศล เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับทุกประการเทอญ "

การขอขมากรรมนี้จะช่วยให้ การจองเวรกันลดลง หรือ อาจจะ สลายตัว เป็น โมฆะกรรม ได้ และ ส่งผลให้ ชีวิตเราราบรื่น ปลอดโปร่งสะดวกขึ้น เป็นการช่วยลดสภาวะกรรมรวม ของโลก ที่จะส่งผลให้เกิดภัยพิบัติ ลดลง และในส่วนตัวบางท่านที่มีเจ้ากรรมนายเวร ที่กะว่าจะเช็คบิลท่านใน ภัยพิบัติรอบนี้ อาจจะอโหสิให้

2. ขออโหสิกรรมให้แด่ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ยังประคองจิตอยู่ต่อหน้าพระด้วยใจที่สบายนะครับ แล้ว อธิฐานต่อว่า " ข้าพเจ้านับแต่นี้จะมีแต่ จิตใจที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ เต็มไปด้วยจิตใจที่ดีงาม เปี่ยมไปด้วย ความเมตตาต่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้ใดข้าพเจ้าขอ อโหสิกรรมให้กับเขาเหล่านั้นไม่ว่าเขาจะทำกรรม ล่วงเกินข้าพเจ้าไม่ว่าจะเป็นทาง กาย วาจา ใจ ในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับเขา เหล่านั้นขอให้เขาประสพแต่ความสุข พ้นจากความทุกข์ พ้นภัย จากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ "

----------------------------------------------

คำอธิฐานนี้มีผล 2 ประการ คือ 1. เป็นการให้อภัยทานอันเป็นทานสูงสุด ใช้กำลังใจสูงสุด ในการให้ครับ แต่ คุณก็ทำได้ จิตก็จะยิ่งเบาขึ้นครับ 2. คุณทุกคนบนโลกใบนี้นี่แหละครับ ที่เป็นคนทำ ให้เกิดกรรมแห่ง การอาฆาตล้างแค้นกันและกันสะสม จนเกิดภัยพิบัติครั้งนี้ แปลกนะครับที่คนเรากลัว เจ้ากรรมนายเวรกันเวลาทำบุญกรวดนำอุทิศส่วนกุศลให้ แต่กลับไม่เคยรู้ตัวเลยว่า " เรานี่ละตัวดี เป็นเจ้ากรรมนายเวรของชาวบ้านชาวช่องเขา " เวลาไป โกรธ อิจฉา ริษยา อาฆาตแค้น คนอื่นเขา การสลายกรรมตรงนี้ส่งผลให้สภาวะกรรม รวมของโลกเบาบางลงครับ และการที่ตัวเจ้ากรรมนายเวรตัดสินใจลบบัญชีกรรมอโหสิให้ เป็นโมฆะกรรม นั้นเป็นเรื่องที่ ง่ายกว่าการที่จะไปออนวอนขอให้ เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม ให้ครับ เพราะบางคนก็ไม่ยอมง่ายๆครับ ต้องใช้เวลาและทำให้บ่อยๆครับ

3. มหาโมทนามัย ประคองจิตให้อยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้าตั้งจิตให้เบาสบายและมั่นคงอธิฐานว่า " ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิฐานระลึกถึง บุญกุศล บารมีคุณงามความดี และจิตใจที่ดีงาม ของพระพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ ทั้งหลาย เทพพรหมเทวาทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ตลอดจนความดีของสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วมหาอนันต์ จักรวาลที่ได้บำเพ็ญมา นับตั้ง แต่อดีต ปัจจุบัน และที่จะบำเพ็ญประโยชน์ต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา สัมมาทิฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา ข้าพเจ้าขอกราบมหาโมทนา ในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ด้วยความจริงใจ ขอให้อำนาจแห่งการมหาโมทนามัยนี้จงส่งผล เป็นกระแสบุญอันบริสุทธิ์หลั่งไหลสู่ดวงจิต ของข้าพเจ้านับแต่นี้ด้วยเทอญ "

ขอให้ทุกท่านฉลาดในการทำบุญ ฉลาดใน การโมทนา ฉลาดในการ การอธิฐาน ฉลาดในการ สร้างบารมี ครับ พระท่านให้พรมาครับยังประคองจิตอยู่ต่อหน้าพระนะครับ

4. เรียกบารมีเก่า อธิฐานต่อไปว่า " ข้าพเจ้าขอตั้งจิตระลึกถึง บุญบารมี คุณความดี สรรพวิชา และ สายสมบัติ ที่ข้าพเจ้าได้สร้าง ได้ศึกษา ได้ปฏิบัติ และ ได้บำเพ็ญมา ( เพื่อปรารถนาสัมมาสัมโพธิญาณ มีพระนิพพานเป็นที่สุด ) นับตั้งเเต่ อดีต ปัจจุบัน และจะบำเพ็ญต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา สัมมาทิษฐิให้ มารวมตัวกัน ณ บัดนี้ เพื่อให้ข้าพเจ้าได้ใช้สร้างบุญ สร้าง บารมี เพื่อ ความรุ่งเรืองในทั้ง ทาง โลก และ ทางธรรม มีกำลังใจ กำลังบารมีทั้ง 30 ทัศน์ ได้ช่วยตนเองและ สรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ ประสพแต่ความสุข พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานด้วยเทอญ "

----------------------------------------------

ขั้นตอนนี้เป็นการเรียกบารมีเก่าที่เราอาจหลงลืมหรือตกหล่นไปในอดีตชาติให้กลับมาครับ จะช่วยให้ฝึกวิชาและสมาธิได้ง่ายขึ้น รวมทั้งบุญเก่าด้วยครับให้มาส่งผลเร็วขึ้น ต่อไปเป็นวิชาสำคัญในการพลิกจิตให้มี สภาวะจิตที่บริสุทธ์ยิ่งขึ้นครับ คือ

5. เมตตาอัปปมาณฌาณ จับลมสบาย จิตจับภาพพระพุทธเจ้าให้ใสเป็นเพชร ครับ จากนั้นนึก กราบขอให้ท่านมาลอยอยู่ เหนือหัว ของเรา แล้ว กำหนดจิตของเราให้ " รู้สึก " ถึง บุญกุศลความดีงาม ความงดงามแห่งจิตใจ ความชุ่มใจ ความอิ่มเอิบใจ ความปลื้มปิติ ความรัก ที่ บริสุทธิ์ ความตื้นตันใจ ความรักที่เรามีต่อพ่อแม่ ที่มี ต่อพระเจ้าอยู่หัวในวัน มหาปิติ 60 ปี ให้ความรู้สึกเป็นสุขปิติอิ่มเอิบใจนี้ เติมให้เต็มหัวใจของเรา นึกถึง ภาพดอกไม้ที่ค่อย ๆ แย้มกลีบด้วยความงดงาม เมื่อจิตใจแย้มยิ้มชื่นบาน เต็มหัวใจ กายเราก็ยิ้ม เบิกบานมีความสุข อย่างที่สุด เรากำหนดจิตว่า บุญ คือ ความสุข ที่ข้าพเจ้า ปรากฏณ บัดนี้

----------------------------------------------

ข้าพเจ้าขออุทิศความสุข ส่วนกุศลนี้ไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั่วอนันตจักรวาล ขอให้ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้ประสพแต่ความสุขพ้นจากความทุกข์ พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัส พระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ แล้วค่อย ๆ ทำความรู้สึกว่าตัวเราสว่างมี แสงรัศมีสีทอง อันเป็นรัศมีแห่ง ความรักที่บริสุทธิ์ ความเมตตาที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีประมาณ ที่เรามีให้แก่ สรรพสัตว์ไม่มีวันจบสิ้น ให้แสงแห่งความเมตตาอันดีงามบริสุทธิ์นี้ แผ่ส่องสว่างปกคลุมห้องที่เราอยู่นี้ สว่างเรืองรอง จิตของสรรพสัตว์ดวงใดได้สัมผัส กับ รัศมี นี้ก็ให้มีความสุข สงบ ชุ่มเย็นไปด้วย จิตเรา ยิ่งเปล่ง รัศมีเท่าไหร่ จิตเรา ก็ยิ่ง มีความสุขชุ่มเย็นยิ่งขึ้น แผ่รัศมีสีทอง ระยิบ ระยับ ค่อย ๆ ปกคลุมบ้านหรือ อาคารที่เราอยู่ทั้งหลังครับ ค่อย ๆ ทำใจเย็น ๆ

----------------------------------------------

จากนั้นแผ่ปกคลุม อำเภอ จังหวัดที่คุณอยู่ ประคองใจให้ชุ่มเย็นอิ่มเอิบตลอดเวลา แล้วค่อย ๆ แผ่ให้กว้าง จนคลุมประเทศไทย จนมองเห็นเป็นขวานสีทอง แล้วอธิฐานให้ประเทศไทยจงสงบสุขร่มเย็น ผู้คนจิตใจดีงาม

จากนั้น แผ่รัศมีแห่งความสุขนี้ปกคลุมโลกจนเป็น สีทองสว่างไสว อธิฐานว่า " ขอให้โลกนี้จงสงบ สุขร่มเย็น " แล้ว จึงแผ่รัศมีสีทองออกไปทั่วสุริยจักรวาล ไม่มีที่สิ้นสุดจนออกไป ยังอนันตจักรวาล ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ จิตเรายิ่งแผ่รัศมีเท่าไหร่จิตเรายิ่งแย้มยิ้มอิ่มเอิบใจยิ่งให้มากมายเท่าไหร่ จิตเราก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ประคองอารมณ์ใจที่แสนปิติสุขนี้ไว้ตามที่ต้องการครับ ส่วน พุทธภูมิ และ ผู้ที่ได้มโนฯ ให้ประคองจิตไว้แล้ว แผ่รัศมีแห่งความเมตตานี้จากขอบอนันตจักรวาล เข้ามาสู่ตัว แล้วแผ่ย้อนกลับออกไปใหม่ครับ

" พุทธภูมินี้จะนำวิชชานี้ไปใช้เมื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าครับ "

ในการใช้ข่ายพระญาณในการตรวจหาบารมีผู้บรรลุธรรมครับ ห้ามทุกคนใช้หรือลองเล่นเด็ดขาดนะครับเพราะ เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าเท่านั้น บอกให้ทราบเป็นความรู้ อนุญาตให้ใช้ แผ่เมตตาอัปปมาณฌาณ เท่านั้น

จากนั้น ขอบารมี พระพุทธเจ้าท่านทรงสงเคราะห์ ขอให้ท่านเปิดอนันตจักรวาลให้เห็นบรรดาสรรพสัตว์ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และ มีผู้ผิดผู้ หลง ต้องเสวยกรรมให้วัฏฏสงสารเท่าไหร่ ใช้ ปัญญาพิจารณา ต่อไปว่า " มวลหมู่สัตว์ผู้แหวกว่ายในทะเลทุกข์นั้น มากมายมหาศาล ขณะนี้ จิตของข้าพเจ้าเปี่ยมไปด้วย มหาเมตตาไม่มีประมาณ ต่อมวลหมู่สัตว์ ข้าพเจ้าขอตั้งกำลังใจใหม่ ละมานะทิฐิ ที่สำคัญตนว่าดี สำคัญตน ว่า เลิศ บำเพ็ญพระโพธิญาณเพื่อตนเอง มาเป็น สัมมาทิฐิ ว่า จะขอสละ ร่างกาย ชีวิต สร้าง บารมี ด้วย เมตตา หวังเพื่อช่วยสรรพสัตว์ ทั้งหลาย ให้พ้นจากสังสารวัฏเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ "

สำหรับ พุทธภูมิ ที่อธิฐานพลิกจิตนี้สำเร็จ นี้ จะมีอาการ ปิติ นำตาไหล ร้องไห้ด้วยความอิ่มใจ บางคนก็เหมือนได้ยินเหมือนฟ้าผ่าเสียงดัง บางคน ได้กลิ่นธูป หรือดอกไม้หอม สำหรับท่านที่สำเร็จ ผมขอน้อมเศียรกราบโมทนา ในความเป็น พระโพธิสัตว์ ของท่าน ด้วยครับ

ตอนนี้ให้ทุกคนคิดเอาตัวเราในจิตไปกราบพระพุทธเจ้าครับ แล้ว ถอนจิตออกจากสมาธิช้า ๆ โดยการหายใจเข้า ลึก ๆ ช้า ๆ ครับ

พระวิสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ พระมหากรุณาธิคุณ มีคุณพระรัตนตรัยเป็น สรณะที่พึ่ง ที่ระลึก ที่ประเสริฐสุด สูงสุด